ศัลยกรรมตาเฉี่ยว Foxy Eyes สายฝอห้ามพลาด!

ศัลยกรรมตาเฉี่ยว Foxy Eyes สายฝอห้ามพลาด!

ทรงตาของแต่ละคนก็มีหลากหลายรูปแบบ แต่ทรงตาอีกรูปแบบที่เป็นที่นิยมกันอย่างมากสำหรับสายฝอ สายแซ่บก็คงหนีไม่พ้นตา Foxy Eyes หรือตาแบบเฉี่ยว ที่จะทำการยกหางตาเฉียงขึ้นไป ทำให้ดูแล้วรู้สึกเซ็กซี่มากยิ่งขึ้น เป็นทรงตายอดฮิตที่สายฝอไม่ควรพลาด สำหรับใครที่ชอบแต่งตัวสายฝอ แต่รู้สึกว่าหน้ายังไม่ฝอมากนัก การทำตาเฉี่ยว จะช่วยเสริมความเป็นสายฝอให้มากยิ่งขึ้น แต่หลายคนอาจจะยังไม่รู้จักการทำตาในรูปแบบนี้มากนัก

ดังนั้นวันนี้ Bujeong Clinic จะพาคุณมารู้จักรูปแบบการศัลยกรรมดวงตาให้เฉี่ยวขึ้น ไปดูกันดีกว่าว่าการศัลยกรรมตารูปแบบนี้คืออะไร และเหมาะกับใครกันบ้าง!!

Foxy Eyes คืออะไร ?

Foxy Eyes

รูปทรงทั่วไปของดวงตา จะเป็นทรงลักษณะโค้ง และต้องสามารถมองเห็นตาดำได้ชัดเจน หัวตา และหางตาจะโค้งได้รูป แต่การทำตาให้เฉี่ยวขึ้น เป็นเทคนิคในการดึงบริเวณหางตาให้ยก และเฉียงขึ้น เพื่อให้ดวงตาดูยาว ดูมีมิติกว่าตาแบบปกติ ซึ่งดวงตารูปแบบนี้จะมีความคล้ายคลึงกับตาของจิ้งจอก ซึ่งเป็นรูปแบบการทำตาที่เหมาะในการแก้ปัญหาคนที่มีช่วงตาดูสั้น ตาเศร้า หรือตาดูง่วงอยู่ตลอดเวลาได้

นอกจากนั้นสำหรับสายฝอแล้ว ยังทำให้ตาดูคมขึ้น ยิ่งถ้าแต่งหน้าแบบสายฝอเข้าไปด้วยก็จะ ทำให้ดวงตาดูมีลูกเล่น มีเสน่ห์มากขึ้น อีกทั้งยังช่วยทำให้ดวงตามีชีวิตชีวาขึ้นอีกด้วย

 

การทำตาเฉี่ยว เหมาะกับใคร ?

การทำตาเฉี่ยวเป็นการทำตา เพื่อปรับรูปตาให้หางตาเฉี่ยวมากยิ่งขึ้น และเพื่อแก้ปัญหาตาแบบอื่นๆ โดยเฉพาะกับคนที่มีหางตาตก หรือคนที่มีอายุมากขึ้น ที่ผิวหนังเริ่มหย่อนคล้อย เพื่อปรับรูปตาให้กลับมาดูมั่นใจมากยิ่งขึ้น รวมถึงคนที่มีปัญหาเหล่านี้ด้วย

  • ผู้ที่มีปัญหาหนังตาหย่อนคล้อย หรือมีริ้วรอยที่หางตา
  • ผู้มีปัญหาหางตาตก ตาดูง่วง ดูเศร้า หรือดวงตาไม่สดใส
  • ผู้ที่อยากให้ดวงตาเฉี่ยว และคมมากยิ่งขึ้น

Foxy Eyes มีกี่แบบ แต่ละแบบเป็นอย่างไรบ้าง ?

โดยหลักๆ การทำศัยลกรรมตาเฉี่ยว หรือตาจิ้งจอก จะมีวิธีในการทำหลายแบบ ขึ้นอยู่ว่าจะเลือกแบบไหน ซึ่งแต่ละวิธีก็มีข้อดี และข้อเสียที่แตกต่างกันไปด้วย แต่ให้ผลลัพธ์ที่เหมือนกัน นั่นก็คือจะได้ดวงตาที่ดูเฉี่ยวขึ้น หางตายกขึ้น ซึ่งในปัจจุบันจะมีด้วยกัน 3 วิธีหลักๆ จะมีวิธีไหนบ้างมาดูกันเลย!

 

1.ทำตาเฉี่ยวด้วยการผ่าตัด

วิธีนี้เป็นวิธียอดนิยมในการทำตาเฉี่ยว เนื่องจากจะได้ตาเฉี่ยวแบบถาวร ซึ่งเป็นวิธีที่จะมีความคล้ายคลึงกับการดึงหน้า โดยจะทำการผ่าตัดเพื่อเปิดแผลบริเวณหางตา และทำการดึงหางตาเพื่อยกหางตาขึ้นให้ได้มุมที่เหมาะสม จากนั้นจะทำการเย็บหนังตาให้เข้าที่ เพื่อเป็นการล็อคให้หางตาชี้ขึ้นไป ระหว่างการผ่าตัด

ซึ่งวิธีนี้จะเห็นผลได้ทันทีที่ทำ และใช้เวลาในการทำไม่นานนัก เมื่อทำเสร็จสามารถกลับบ้านได้เลย เหมือนกับการดึงหน้าเฉพาะจุด แต่จะต้องมาทำการตัดไหมออกเมื่อถึงเวลาที่แพทย์นัด เหมือนกับการศัลยกรรมรูปแบบอื่นๆ วิธีนี้เหมาะมากสำหรับคนที่มีหนังตาเยอะ หรือมีริ้วรอยเยอะ เพราะให้ผลคล้ายกับการดึงหน้า และแก้ปัญหาตาเฉี่ยวได้ถาวร แต่อาจจะต้องรอให้แผลหาย รอแผลเข้าที่ และต้องมาตัดไหมตามที่แพทย์นัดประมาณ 6 เดือน

 

2.การร้อยไหมเพื่อยกหางตา

Foxy Eyes

สำหรับใครที่ไม่อยากผ่าตัด อาจจะเลือกวิธีนี้แทนได้ เนื่องจากวิธีนี้ไม่ได้เป็นการผ่าตัด แต่จะใช้เทคนิคการร้อยไหมไปบริเวณหางตา แล้วทำการดึงเพื่อยกหางตาขึ้น เพราะไหมที่ร้อยเข้าไปจะทำให้ผิวหนังกระชับ และในเส้นไหมจะมีเขี้ยวที่ใช้ในการล็อคชั้นผิวให้ยกขึ้น ทำให้ดวงตาเฉี่ยวขึ้น

วิธีนี้เป็นการทำตาที่เมื่อทำเสร็จจะได้ตาเฉี่ยวทันที โดยที่ไม่ต้องรอพักฟื้นมากนัก เหมาะสำหรับคนที่ไม่ค่อยมีเวลามากนัก เพราะสามารถทำตาเฉี่ยวได้รวดเร็ว และคนที่ไม่อยากให้มีรอยแผลเหมือนการผ่าตัด

แต่การร้อยไหมมีข้อจำกัดอยู่ที่ไม่สามารถทำตาเฉี่ยวได้ถาวร เนื่องจากเมื่อเวลาผ่านไปประมาณ 4 – 6 เดือน ไหมจะเริ่มละลายไปจนหมด ทำให้ชั้นตาที่ดึงขึ้นตกลงมาได้ แต่เมื่อตาตกลงมาก็สามารถกลับมาร้อยไหมใหม่อีกครั้งได้ แต่จะไม่สามารถทำต่อเนื่องได้ทันที เพราะจะต้องรอให้ไหมละลายไปหมดก่อนจึงจะทำใหม่ได้

 

3.การทำทรีคเม้นท์ยกกระชับหางตา

สำหรับใครที่กลัวเจ็บ อาจจะใช้วิธีนี้แทนได้ เพราะเป็นการยกหางตาโดยใช้การทำทรีคเม้นท์แบบต่างๆ ที่จะใช้เทคนิคเพื่อยกกระชับผิวขึ้น ซึ่งเมื่อผิวกระชับขึ้น โดยเฉพาะบริเวณหางตาก็จะทำให้หางตายกขึ้น ซึ่งวิธีในการยกหางตา และทำให้ผิวกระชับมีให้เลือกหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็น

  • Hifu เป็นการยกกระชับผิวโดยใช้เครื่อง ในการส่งคลื่นอันตร้าซาวด์ออกมา แล้วยิงเข้าไปในชั้นผิว เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิว ทำให้ชั้นผิวหดตัว และผิวกระชับมากยิ่งขึ้น ซึ่งสามารถใช้เพื่อแก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อย และริ้วรอยได้
  • Ulthera  เป็นอีกรูปแบบการทำทรีคเม้นท์ที่จะใช้ตัวเครื่องที่มีคลื่นเสียงความถี่สูง และมีความเจาะจง ในการยิงเข้าไปในชั้นผิวเพื่อยกกระชับผิว และลดริ้วรอย ซึ่งสามารถยิงได้ลึกถึงชั้นคอลลาเจน ในการยกกระชับผิวหน้า รอบดวงตา และส่วนอื่นๆ ซึ่งแต่ละส่วนของใบหน้าที่จะยกกระชับจะใช้ระดับความลึกของคลื่นที่ต่างกัน
  • Thermage เป็นการทำทรีคเม้นท์เพื่อยกกระชับอีกรูปแบบ ที่จะช่วยกระตุ้นเพื่อสร้างคอลลาเจนในผิว โดยจะใช้คลื่นวิทยุยิ่งเข้าไปในชั้นผิวระดับลึกๆ รวมถึงชั้นของไขมันใต้ผิวหนังด้วย เพื่อยกกระชับผิวต่างๆ ขึ้น ทั้งชั้นหนังกำพร้า หนังแท้ และชั้นใต้ผิวหนัง และสลายไขมันส่วนเกิน เพื่อทำให้ผิวกระชับมากยิ่งขึ้น ซึ่งนิยมนำมาทำบริเวณรอบดวงตา และหางตาในการแก้ปัญหาหนังตาตก

เป็นวิธีที่ใช้เวลาไม่นาน และไม่มีรอยแผล ไม่ต้องผ่าตัด เหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบความเจ็บ และอยากลดริ้วรอยบริเวณดวงตา แต่วิธีนี้อาจจะไม่สามารถยกหางตาได้ชัดเจนเหมือนกับการผ่าตัด หรือร้อยไหม ถ้าอยากจะเห็นผลชัดเจนอาจจะต้องทำต่อเนื่อง

การทำตาเฉี่ยวราคาเท่าไหร่ ?

ราคาในการทำตาเฉี่ยวแต่ละวิธีนั้นแตกต่างกัน ขึ้นอยู่วิธีที่เลือกใช้ นอกจากนั้นก็ขึ้นอยู่กับเทคนิคที่แพทย์แต่ละคนใช้กันด้วย รวมถึงจำนวนครั้งในการทำก็อาจจะส่งผลให้ราคาแตกต่างกัน

  • การผ่าตัดศัลยกรรม ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 30,000 – 150,000 บาท (*ราคานี้เป็นราคาคร่าวๆ เท่านั้น ราคาจริงๆ ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย) เนื่องจากเป็นการทำตาเฉี่ยวถาวร ราคาเลยจะสูงกว่าวิธีอื่นๆ แต่ก็ต้องดูรายละเอียดให้ชัดเจนก่อนทำด้วย ไม่ควรเลือกที่ราคาถูกเกินไป เพราะอาจจะไม่ได้มาตรฐาน
  • การร้อยไหม ราคาจะประมาณ 5,000 – 10,000 บาท (*ราคานี้เป็นราคาคร่าวๆ เท่านั้น ราคาจริงๆ ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย) ราคาจะถูกกว่าการผ่าตัด เพราะไม่ได้ทำให้ตาอยู่ได้ถาวร ส่วนใหญ่ราคาจะขึ้นอยู่กับจำนวนเส้นไหมในการยกกระชับ
  • การทำทรีคเม้นท์ ราคาจะอยู่ประมาณ 15,000 – 35,000 บาท (*ราคานี้เป็นราคาคร่าวๆ เท่านั้น ราคาจริงๆ ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย) ขึ้นอยู่กับประเภทของทรีคเม้นท์ และตัวเครื่องที่เลือกใช้ รวมถึงจำนวนครั้งที่ใช้ในการทำอีกด้วย ราคาอาจจะสูงกว่าวิธีการร้อยไหม แต่ก็ให้ผลดีในการยกกระชับ รวมถึงการบำรุงส่วนอื่นๆ อีกด้วย

ราคาในการทำตาเฉี่ยวของแต่ละที่ก็จะแตกต่างกัน เพราะแต่ละคลินิกก็มีเทคนิค มีการใช้วัสดุ หรือเครื่องมือที่ต่างกัน จึงทำให้ราคานี้เป็นเพียงราคาคร่าวๆ เท่านั้น

 

การทำศัลยกรรมตาเฉี่ยวนับว่าเป็นอีกหนึ่งรูปแบบ การทำตาที่จะช่วยให้ดวงตามีเสน่ห์มากยิ่งขึ้น ซึ่งคุณสามารถเลือกวิธีในการทำตาได้ตามความชอบ หากไม่อยากเจ็บมาก แนะนำให้ใช้การทำทรีคเม้นท์แบบต่างๆ ถึงแม้ว่าจะยกหางตาได้ไม่เท่าวิธีอื่น แต่ก็จะช่วยยกกระชับหางตา และส่วนอื่นๆ ได้ดี

แต่ถ้าอยากได้หนังตาที่ชัดขึ้นมา อาจจะเลือกการร้อยไหมแทน แต่ถ้าใครอยากได้ตาเฉี่ยวแบบถาวร แนะนำการผ่าตัดไปเลยจะได้คงทนมากกว่า ครั้งเดียวแต่จบ นอกจากนั้นการเลือกคลินิกทำตาจะต้องเลือกให้ดีด้วย เพราะว่าหากทำไม่ดีอาจจะทำให้ดวงตาไม่สวย ไม่ได้รูปเหมือนแบบที่ต้องการ หากอยากได้ตาเฉี่ยวสวยๆ แนะนำที่ Bujeong Clinic เพราะเป็นคลินิกที่รวมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทั้งไทย และ เกาหลี ที่มากด้วยประสบการณ์ที่จะช่วยเนรมิตดวงตาเฉี่ยวคมสวยๆ ให้กับคุณ!

 

เลือกทำ Foxy Eyes เลือกทำที่ Bujeong Clinic !

Bujeong Clinic (ศูนย์ศัลยกรรมพูจองคลินิก) เป็นคลินิกเสริมความงาม ที่ให้บริการศัลยกรรม และ หัตถการ ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย และ มาตรฐานความปลอดภัย โดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ทั้งแพทย์ไทย และ แพทย์เกาหลี ที่มากด้วยประสบการณ์ ที่พร้อมจะเนรมิตให้คุณสวยแบบที่ต้องการ  นอกจากนั้นแล้วพูจองคลินิกยังมีสาขาให้เลือกมากมายถึง 10 สาขา ทั้งในกรุงเทพ และ ต่างจังหวัด เพราะความสวยไม่รอใคร อยากสวยเลือกทำที่ Bujeong Clinic !

มั่นใจ ปลอดภัย และ ได้มาตรฐาน พูจองคลินิกส่งตรงความงาม แบบฉบับเกาหลี

 

 

 

สามารถติดตาม Bujeong Clinic สำหรับเสริมความงาม ช่องทางต่างๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่

Facebook : Bujeong Clinic – พูจอง คลินิก

Line : @Bujeong-Clinic

Tel : 088-050-1111

 

สามารถติดตาม Bujeong Clinic Surgery Center สำหรับศัลยกรรม ช่องทางต่างๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่

FacebookBujeong surgery center

Line : @bujeongsurgery

Tel : 061-042-2999