หากเกิดอุบัติเหตุจมูกหัก จำเป็นหรือไม่ที่ต้อง ศัลยกรรมจมูก

จมูก คือ อวัยวะที่ได้รับการบาดเจ็บง่ายที่สุด โดยเฉพาะนักกีฬา ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพกระดูก หรือ ผู้ที่ได้รับอุบัติเหตุทางรถยนต์ สาเหตุเหล่านี้อาจทำให้กระดูกจมูกหักได้ แต่ไม่ต้องกังวลเพราะวันนี้ทาง Bujeong Clinic จะมา แนะนำรูปแบบการ ศัลยกรรมจมูก และวิธีแก้ไขรูปทรงจมูกเมื่อจมูกหัก ซึ่งวิธีการนี้จะแตกต่างจากการเสริมจมูกปกติหรือไม่ ตามไปดูกัน!

จมูกหัก มีรูปแบบอย่างไร

บริเวณโครงสร้างของจมูกประกอบไปด้วย 2 ส่วน คือ ส่วนที่เป็นกระดูกแข็งบริเวณสันจมูก และส่วนที่เป็นกระดูกอ่อนบริเวณปลายจมูก หากได้รับอุบัติเหตุที่ส่งผลต่อจมูกจะมีอาการต่างๆ ที่เห็นถึงความผิดปกติได้อย่างชัดเจน ได้แก่

จมูกมีเลือดไหล
มีรอยบวมช้ำรอบดวงตา
ในกรณีรุนแรงอาจทำให้เกิดการหายใจลำบาก
จมูกมีลิ่มเลือดขนาดใหญ่
เนื้อเยื่อจมูกเปลี่ยนเป็นสีดำ

หากมีอาการดังกล่าวควรรีบไปพบแพทย์ทันที โดยผู้ป่วยต้องให้แพทย์ทำการรักษาภายใน 5-7 วัน เพราะหากปล่อยไว้นานเกิน 1 เดือน กระดูกบริเวณนั้นจะต่อเองแบบธรรมชาติ ส่งผลให้จมูกเสียรูปทรง บิดเบี้ยว และ รักษาหรือแก้ไขได้ยากกว่าเดิม

ภาวะจมูกหักแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ

New Fracture หมายถึง ภาวะจมูกหักแล้วเข้าพบแพทย์และรับการรักษาทันที ซึ่งจะทำให้เกิดประสิทธิภาพในการรักษา และมีโอกาสที่จมูกจะกลับมาคืนรูปสวยเป็นปกติได้
Old Fracture หมายถึง ภาวะการแตกหักของจมูกที่ไม่ได้รับการรักษาในทันที และปล่อยไว้เป็นระยะเวลานาน ผลที่ตามมาคือ ทำให้จมูกผิดรูป บิดเบี้ยว การรักษาต้องอาศัยการตอกกระดูก และจัดกระดูกใหม่ ทำให้รักษายากมากขึ้น และรูปทรงของจมูกจะไม่สามารถกลับมาเหมือนเดิมได้ 100%

จากภาวะจมูกหักทั้ง 2 ประเภท ถ้าในกรณีที่เกิดเหตุใหม่ๆ จมูกยังไม่บวมมาก สามารถทำการรักษาโดยการดัดจมูกได้ทันที ส่วนในกรณีที่มีอาการบวมมาก แพทย์อาจรอให้จมูกและใบหน้ายุบบวมประมาณ 5-7 วัน เพื่อประเมินอาการ และเห็นรูปทรงของจมูกชัดเจนขึ้น แนะนำว่าไม่ควรเสริมซิลิโคนทันทีหลังผ่าตัด เพราะอาจทำให้เกิดการอักเสบได้ ทางที่ดีควรรอให้การรักษาหายดีก่อนที่จะเข้ารับการ ศัลยกรรมจมูก

วิธี ศัลยกรรมจมูก เมื่อจมูกหัก

จมูกต้องได้รับการรักษาก็ต่อเมื่อมีความผิดปกติที่เห็นได้อย่างชัดเจน นั่นก็คือ จมูกหักจากการประสบอุบัติเหตุทำให้การแตกหักของจมูกรบกวนการหายใจ ซึ่งวิธีรักษามีทั้งหมด 3 แนวทาง ดังนี้

วิธีที่ 1 ในกรณีที่ตรวจพบว่ากระดูกหักเพียงเล็กน้อย แพทย์จะฉีดยาชาเฉพาะจุด และใช้วิธีการจัดกระดูกบริเวณจมูกให้เข้าที่ พร้อมยึดจมูกที่หักเอาไว้ด้วยเฝือกเพื่อให้กระดูกเชื่อมติดกัน ใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์ ถึง 1 เดือน ทั้งนี้ระยะเวลาการพักฟื้นจะขึ้นอยู่กับสภาวะร่างกายของผู้เข้ารับการรักษา

วิธีที่ 2 ในกรณีที่จมูกหักมาก หรือมีภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง เช่น ภาวะเลือดคั่งที่ผนังกั้นจมูก ควรได้รับการรักษาภายใน 24-48 ชั่วโมงทันที โดยแพทย์ผ่าตัดด้วยวิธี Open Rhinoplasty คือ การผ่าตัดเปิดจมูกจากบริเวณปลายจมูกขึ้นไป จากนั้นแพทย์จะทำการจัดกระดูกให้เข้ารูป แล้วใช้วิธีเย็บจากด้านในเพื่อยึดกระดูกแต่ละชิ้นให้เข้าที่ จากนั้นปิดแผล และเข้าเฝือกบริเวณจมูกไว้เป็นเวลาประมาณ 1 เดือนเช่นเดียวกับวิธีแรก

การผ่าตัดวิธีนี้ต้องใช้ยาชาและยาสลบร่วมกัน เพื่อช่วยบรรเทาความเจ็บปวดให้กับคนไข้ แต่ต้องรู้สึกตัวในขณะผ่าตัด และสำหรับการรักษาในวิธีนี้สามารถใช้กับผู้ที่มีปัญหาจมูกคดเอียง จมูกเบี้ยวตามธรรมชาติได้ ซึ่งการรักษาในวิธีที่ 1 และวิธีที่ 2 นี้ ผู้ทำการรักษาจะต้องเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านหู คอ จมูก เท่านั้น

วิธีที่ 3 ถ้าใครที่รักษาด้วยวิธีที่ 1 และ 2 แล้วพบว่ากระดูกยังไม่เข้าที่ มีลักษณะคดเอียง บิดเบี้ยว หรือมีร่องรอยจากการผ่าตัด ส่งผลต่อบุคลิกภาพและทำให้เกิดความไม่มั่นใจ หลังจากที่จมูกเข้ารูป และแผลหายสนิทแล้ว คุณสามารถเลือกเข้าพบศัลยแพทย์ได้ เพื่อแก้ไขและปรับแต่งรูปทรงของจมูกของคุณให้สวยงามดูเป็นธรรมชาติ

ศัลยกรรมจมูก กับ แก้ไขจมูกหัก ต่างกันอย่างไร

สำหรับใครที่เกิดข้อสงสัยว่า “การเสริมจมูก กับ การผ่าตัดแก้ไขจมูก ต่างกันอย่างไร?” การเสริมจมูก คือ ศัลยกรรมความงามอย่างหนึ่ง ที่ช่วยปรับโครงสร้างของจมูกให้เกิดความสมดุลกับใบหน้า ปัจจุบันมีเทคนิคการผ่าตัดมากมายที่ช่วยทำให้แผลฟื้นตัวไวขึ้น เกิดผลข้างเคียงน้อยลง แต่การศัลยกรรมนอกจากเพิ่มความสวยงามให้กับใบหน้าแล้ว ยังสามารถนำมาใช้รักษาในเคสจมูกหักจากอุบัติเหตุ หรือผู้ที่มีรูปทรงจมูกบิดเบี้ยวจากปัญหาสุขภาพกระดูกได้

ในกรณีที่ต้องผ่าตัดแก้ไขจมูกหัก จะมีขั้นตอนการทำที่ยากกว่า เพราะต้องแก้ไขโครงสร้างของจมูก และใช้ระยะเวลาในการฟื้นตัวประมาณ 6 สัปดาห์หลังจากที่ได้รับการรักษา แต่ถ้าเสริมจมูกเพียงอย่างเดียวจะใช้เวลาในการฟื้นตัวประมาณ 7 วันเท่านั้น แต่หลังจากผ่าตัดแก้ไขจมูกในช่วงพักฟื้นต้องดูแลตัวเองคล้ายๆ กับการ ศัลยกรรมจมูก ดังนี้

หลีกเลี่ยงการออกกำลังกาย หรือทำกิจกรรมต่างๆ ที่อาจส่งผลให้เกิดการบาดเจ็บบริเวณใบหน้า
ในช่วง 7 วันแรก ควรหนุนศีรษะด้วยหมอนสูงเพื่อลดอาการบวม
หลังจากการผ่าตัดควรประคบเย็นเป็นเวลา 4-5 วัน เพื่อให้เลือดหยุดไหล และลดความเสี่ยงการเกิดพังผืด ซึ่งอาจส่งผลทำให้จมูกเบี้ยวได้
หลีกเลี่ยงการอาบน้ำร้อน การสัมผัสจมูก การจามทางปาก รวมถึงการอยู่ในสถานที่ที่เต็มไปด้วยฝุ่นควัน เพราะอาจทำให้เกิดการติดเชื้อได้
หลีกเลี่ยงการทานอาหารสแลง อาหารรสจัด การสูบบุหรี่ และการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด
หลีกเลี่ยงการถูกแสงแดดโดยตรงเป็นเวลา 3-6 เดือน
ไปตรวจเช็กอาการตามการนัดหมายของแพทย์ และทานยาตามที่แพทย์สั่งอย่างสม่ำเสมอ

หากใครที่ประสบอุบัติเหตุไม่ว่าจะ หกล้ม เล่นกีฬา หรืออุบัติเหตุทางรถยนต์ แล้วเกิดการกระทบกระเทือนกับจมูก ถ้าทำการเอกซเรย์หรือซีทีสแกน แล้วพบว่ากระดูกหักแต่รูปทรงเป็นปกติ ไม่โค้งงอ ก็ไม่จำเป็นต้องได้รับการจัดกระดูก แต่ในกรณีที่จมูกเกิดการโค้งงอ บิดเบี้ยว จำเป็นต้องเข้ารับการรักษาหลังเกิดอุบัติเหตุทันที วิธีการรักษา คือ ใช้อุปกรณ์ขนาดเล็กเข้าไปงัดดั้งในรูจมูก เพื่อให้กระดูกที่แตกร้าวหรือยุบตัวตั้งขึ้นมาเหมือนเดิม

โดยไม่จำเป็นต้องทำการผ่าตัดเหมือนกับการทำ ศัลยกรรมจมูก แต่หลังจากที่กระดูกเข้ารูปแล้ว ถ้าต้องการปรับรูปทรงจมูกให้สวยยิ่งขึ้น ก็สามารถเสริมจมูกด้วยซิลิโคนในภายหลังเพิ่มเติมได้ ทั้งนี้การผ่าตัดแก้ไขจมูกหัก จมูกคดเอียงจากอุบัติเหตุ จะมีราคาสูงกว่าการเสริมจมูกแบบทั่วไป เนื่องจากมีวิธีการรักษาหลายขั้นตอน แต่ราคานั้นอาจแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขและการให้บริการของคลินิกนั้นๆ แนะนำว่าควรสอบถามและขอคำปรึกษาจากสถานที่ที่สนใจก่อนเลือกใช้บริการ

อยาก ศัลยกรรมจมูก ให้ได้ผลลัพธ์ที่ตรงใจ เลือก Bujeong Clinic

Bujeong Clinic (ศูนย์ศัลยกรรมพูจองคลินิก) เป็นคลินิกเสริมความงาม ที่ให้บริการศัลยกรรม และ หัตถการ ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย และ มาตรฐานความปลอดภัย โดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ทั้งแพทย์ไทย และ แพทย์เกาหลี ที่มากด้วยประสบการณ์ ที่พร้อมจะเนรมิตให้คุณสวยแบบที่ต้องการ นอกจากนั้นแล้วพูจองคลินิกยังมีสาขาให้เลือกมากมายถึง 10 สาขา ทั้งในกรุงเทพ และ ต่างจังหวัด เพราะความสวยไม่รอใคร อยากสวยเลือกทำที่ Bujeong Clinic !